top of page

โป๊ยเซียน/ดอกโป๊ยเซียนและการปลูกโป๊ยเซียน


โป๊ยเซียน (Crown of thorns plant) เป็นไม้ประดับดอกที่ได้รับความนิยมชนิดหนึ่ง เนื่องจากดอกมีสีสันสวยงาม มีหลากหลายสี ออกดอกเป็นช่อขนาดใหญ่ มีลำต้นเล็ก และใบน้อย เมื่อออกดอกแล้วดอกจะดีเด่นสวยงาม นอกจากนั้น ยังเชื่อว่า การโป๊ยเซียนจะนำความร่มเย็นเป็นสุขให้แก่คนในครอบครัว และนำโชคลาภ เงินทองมาให้ ค้าขายร่ำรวย

โป๊ยเซียน มีถิ่นกำเนิดในป่าแถบแอฟริกาเหนือ มีพืชที่อยู่ในวงศ์เดียวกันมากกว่า 7600 ชนิด ทั่วโลก เป็นพืชอวบน้ำ เป็นพืชที่เติบโตได้ดีในสภาพแห้งแล้ง

อนุกรมวิธาน • Division : Anthophyta • Class : Dicotyledoneae • Order : Geraniles or Euphorbiales • Family : Euphorbiaceae • Genus : Euphorbia • Spicies : milii

• ชื่อวิทยาศาสตร์ : Euphorbia splendens Bojer ex Hook.f. • ชื่อท้องถิ่น : – Crown of thorns plant – Christ Thorn • ชื่อท้องถิ่น : – โป๊ยเซียน – ไม้รับแขก – กระวิงระไว – ว่านเข็ม – พระยาอินทร์ – ว่านมุงเมือง

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ 1. ลำต้น และหนาม ลำต้นมีลักษณะกลม เป็นเกลียว หรือ เหลี่ยม มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-5 ซม. มีความสูงได้ถึง 2 เมตร ลำต้นมีสีน้ำตาลอำเหลือง น้ำตาลอมเทา น้ำตาลอมดำ ไปจนถึงสีดำ ผิวลำต้นเต็มไปด้วยหนาม

หนามโป๊ยเซียนจะเกิดรอบๆลำต้น ปลายหนามชี้ชันขึ้นหรือลง มีทั้งหนามเดี่ยว หนามคู่ และหนามรวม บางชนิดอาจเป็นหนามหลายแบบรวมกัน หนามมีการเรียงตัวเป็นระเบียบ สีของหนามหลากหลายสีตามพันธุ์ เช่น สีขาว สีเทา สีดำ สีน้ำตาล สีเขียว เป็นต้น

2. ใบ ใบโป๊ยเซียนเป็นใบเดี่ยว มันลื่น บิดเป็นคลื่น มีเส้นกลางใบนูนเด่นชัด มีเส้นใบย่อยเรียงขนานกันซ้าย-ขวา ยอดอ่อนสีแดงรื่อ ใบอ่อนมีสีเขียว ใบแก่มีสีเขียวอมเทา หรือสีเขียวนวล โคนใบเรียว ปลายใบมีหลายแบบ อาทิ ปลายใบมน ปลายใบแหลม ปลายใบรูปหัวใจกลับด้าน ขนาดใบยาวประมาณ 4-8 ซม.

3. ดอกโป๊ยเซียน ดอกโป๊ยเซียนออกเป็นช่อ มีก้านช่อดอกยาว สีเขียว แต่ละช่อจะมีดอกประมาณ 4-56 ดอก ขึ้นอยู่กับพันธุ์ ดอกที่เราเห็นจะเป็นกลีบเลี้ยง ซึ่งโป๊ยเซียนทั่วไปจะพบดอกออกเป็นกลีบเป็นคู่ๆ ตั้งแต่ 2 คู่ ขึ้นไป มีทั้งกลีบดอกแบบซ้อนทับกัน และไม่ซ้อนทับกัน บางพันธุ์มีกลีบดอกซ้อนทับกันถึง 6 ชั้น กลีบดอกมีหลายแบบ เช่น กลีบมน กลีบมนและมีติ่งแหลม กลีบเว้า กลีบแหลม กลีบพนม กลีบกาบหอยคว่ำ กลีบรี กลีบเหลี่ยม กลีบกลม สีของกลีบดอกหรือที่เรียกว่ามีหลายสี อาทิ สีแดง สีเหลือง สีชมพู สีส้ม สีเขียว สีขาว หรือสีผสม เป็นต้น บริเวณตรงกลางดอกมีเกสรตัวผู้ 5-10 อัน เกสรตัวเมีย 1 อัน เกสรตัวผู้ล้อมรอบเกสรตัวเมีย

โป๊ยเซียนเป็นพืชที่ออกดอกทั้งปี แต่จะออกดอกน้อยในช่วงฤดูฝน และออกดอกมากในช่วงฤดูหนาว

4. ผล และเมล็ด ผลเจริญกลางดอก นูนเด่นขึ้นกลางดอก มีลักษณะสีน้ำตาล มี 3 พู แบ่งเป็นพูละ 1 เมล็ด รวม 3 เมล็ด ผลเมื่อแห้งจะปริแตก และดีดเมล็ดหล่นออกด้านนอก

พันธุ์โป๊ยเซียน แบ่งตามสีดอก • ดอกสีแดง ได้แก่ ปู่เจ้า ทรัพย์ประเสริฐ ร่มโพธิ์ทอง อั้งเปา เศรษฐี แดงมงคล เศรษฐีมหาราช ราชสิงห์ จอมพล พระเสื้อเมือง เจ้าเซียน หัวใจเซียน ทรัพย์ประวิทย์ กำไรแดง ศิริมงคล พระธิดา เทพอรชุน เจ้าพ่อ ป.ต.อ. หนึ่งในจักรวาล เพชรราชสีมา

• ดอกสีเขียว ได้แก่ หยกพระเทพ ศรัญภัทร ศรพระราม เพชรน้ำบุศย์ หยกมณี

• ดอกสีเหลือง ได้แก่ ทองนพคุณ ราชินีไม้งาม มีแล้วรวย ดวงรัตน์ แสงเดือน พูนทอง

• ดอกสีชมพู ได้แก่ โชคปราณี หม่อมย่า บัวสยาม พระสยาม เศรษฐีบ้านโพธิ์ ดวงนฤมล เพิ่มทรัพย์ ชมพูเทพ ดวงพารวย ร่มโพธิ์เงิน วิจิตรโฉม นวลชมพู บุปผาธนาภรณ์ พาร่ำรวย ทับทิมล้านนา

• ดอกสีขาว ได้แก่ เบญจรงค์ ลูกสาว เจ้าสาว เทพราตรี พิมพ์อัมพร พรพิสุทธิ์ อรุณไขแสง ขาวน้ำเพชร ศิริทรัพย์ ผุดผ่อง เงินตรา สาวผักไห่

• ดอกสีส้ม ได้แก่ รุ่งสุรีย์ รุ่งสิริโชค น้อมเกล้า ดีพร้อม รวยก้องพิภพ เจ้าแสนฝาง เหรียญทอง ศรีอัมพร หัทยา แจ๋วแว๋ว

• ดอกตกระ และแกมสีอื่นๆ ได้แก่ พระแม่คงคา ปฏิหาร์  เพชรเมืองจันทร์ ทรัพย์สวนทอง เพชรริมเวียง เทพลีลา อรุณรุ่ง บางละมุง ขวัญเรือน พรพันล้าน ศรีปราชญ์ เศรษฐีสุพรรณ หว้ากอ แสนสุข พันแสง เพชรพญาเย็น เหนือจักรวาล เศรษฐีเมืองราช โชคราชา ศรีเชียงใหม่ พรหมสถิต พรสวรรค์ ระมิงค์ และบารมี

• ดอกสีแดงอมส้ม ได้แก่ อุบลศรี

• ดอกสีเหลืองอมชมพู ได้แก่ พรรณาราย

การปลูกโป๊ยเซียน โป๊ยเซียน สามารถปลูกได้ด้วยวิธีการปลูกด้วยเมล็ด และวิธีการปักชำกิ่ง แต่ทั่วไปจะใช้วิธีการปักชำกิ่งมากที่สุด เนื่องจาก กิ่งชำออกราก และติดรวดเร็วมาก เมื่อเทียบกับการปลูกด้วยเมล็ด และยังให้ต้นที่ค่อนข้างเตี้ย รวมถึงทำได้รวดเร็ว และได้จำนวนมากในเวลาไม่กี่วัน

การปักชำหรือการปลูกจะใช้วิธีปักชำในกระถางที่สามารถเคลื่อนย้าย และดูแลได้ง่าย ด้วยขั้ันตอน ดังนี้ การเตรียมดิน เตรียมดินปลูกด้วยการผสมดินกับวัสดุอินทรีย์ ได้แก่ ปุยคอก ขุยมะพร้าว และแกลบดำ โดยใช้อัตราส่วนดินกับปุยคอก ขุ๋ยมะพร้าว และแกลบดำ ที่ 1:3:2:3 หรืออัตราส่้วนอื่นที่เหมาะสม แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน พร้อมนำบรรจุลงกระถางเตรียมไว้ กระถางปลูกนิยมใช้ทั้งกระถางดินเผา กระถางเซรามิกส์ และกระถางพลาสติก แต่กระถางดินเผา และการถางเซรามิกส์จะให้การเติบโตที่ดีกว่า

การปลูก การปลูกหรือปักชำจะใช้กิ่งพันธุ์จากต้นแม่ โดยเลือกกิ่งที่มีความยาวประมาณ 10-15 ซม. โดยการหักโคนกิ่ง แล้วนำมาปักลงกระถางลึกประมาณ 5 ซม. หลังจากนั้น รดน้ำทุกวัน วันละ 1-2 ครั้ง เมื่อผ่านไปประมาณ 20 วัน กิ่งพันธุ์จะแตกราก และเติบโตบนกระถาง

การปลูกในแปลง การปลูกลงแปลงดินควรเลือกปลูกบริเวณพื้นที่น้ำไม่ท่วมถึงหรือพูนดินในแปลงบริเวณปลูกโป๊ยเซียนให้สูงกว่าบริเวณอื่นๆ นิยมใช้พันธุ์ที่มีลำต้นตั้งตรงมากกว่าลำต้นที่แตกเป็นพุ่ม อาจใช้ต้นหลังการปักชำที่ติดแล้ว หรือใช้กิ่งพันธุ์ปักชำลงแปลงดินได้โดยตรง

การปลูกเป็นไม้ดัด โป๊ยเวียนบางพันธุ์มีลำต้นอ่อน แตกกิ่งมาก สามารถปลูกแล้วดัดกิ่งหรือลำต้น ให้มีรูปทรงต่างๆ แต่การปลูกวิธีนี้ไม่เป็นที่นิยม เนื่องจาก โป๊ยเซียนมีลำต้นอวบน้ำ ดัดยาก และใบโปร่ง

การให้น้ำ โป๊ยเซียนเป็นพืชที่ไม่ชอบน้ำมาก ในระยะการปักชำหรือต้นเริ่มตั้งตัวได้ควรให้น้ำประมาณวันละครั้ง พอชุ่ม หลังจากนั้น อาจให้น้ำ 3-5 วัน/ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ทั้งนี้ ไม่ควรให้น้ำมากหรือให้บ่อย เนื่องจากเป็นพืชที่ไม่ชอบน้ำมาก

การใส่ปุ๋ย โป๊ยเซียนที่ปลูกโดยทั่วไปจะได้รับปุ๋ยอินทรีย์จากวัสดุที่ใช้ผสมดิน แต่อาจให้ปุ๋ยคอกบริเวณโคนต้นร่วมด้วยเป็นระยะ อัตรา 1-2 กำมือ/ต้น ร่วมกับปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ในระยะเจริญเติบโต ทุกๆ 2-3 เืดือน ประมาณหยิบมือ/ต้น และในระยะที่ออกดอกสูตร 12-24-12 ในปริมาณเท่ากัน

การตัดกิ่ง โป๊ยเซียนที่แตกกิ่งมาก จะทำให้ออกดอกน้อย และดอกมีขนาดเล็ก การตัดแต่งกิ่งจะช่วยให้ดอกออกมาก และดอกมีขนาดใหญ่ได้ ปริมาณกิ่งควรมีประมาณ 3-5 กิ่ง/ต้น

ที่มา www.cyto.biz(ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยมูลค้างคาว ปุ๋ยไซโต)

#ปุ๋ยอินทรีย์ #ปุ๋ยมูลค้างคาว #ปุ๋ยไซโต

Comments


bottom of page