top of page

แอปเปิ้ลป่า:ไม้ผลเมืองร้อน

อัปเดตเมื่อ 19 ก.พ. 2562


ชื่อสามัญ Star Apple, Cainito, Caimito, Golden Leaf Tree ชื่อวิทยาศาสตร์ Chrysophyllum cainito L. ชื่อวงศ์ SAPOTACEAE ชื่ออื่นๆ แอปเปิ้ลยาง, สตาร์แอปเปิ้ล, แอปเปิ้ลน้ำนม, แอปเปิ้ลเมือง, บักยาง, หมากน้ำนม, หม่าเปิ้ล

แอปเปิ้ลป่า เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางที่มีอายุอยู่ได้นานหลายปี ไม่ค่อยมีการผลัดใบ พบมีการแพร่กระจายพันธุ์อยู่ในเขตร้อนของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในอีกหลายทวีป


ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลำต้น แอปเปิ้ลป่า เป็นไม้ยืนต้นที่มีเรือนยอดแผ่กว้าง มีความสูงของลำต้นประมาณ 5-20 เมตร ลักษณะของเปลือกลำต้นเรียบ มีสีน้ำตาล เมื่อแก่อาจแตกเป็นร่อง

ใบ ออกเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับกันตามซอกใบหรือปลายกิ่ง ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่แกมรูปขอบขนานขนาดใหญ่ คล้ายใบทุเรียน แผ่นใบเรียบเป็นมัน ขอบใบเรียบ ผิวใบด้านบนมีสีเขียวเข้ม ส่วนด้านล่างเป็นสีน้ำตาลทอง ปลายใบแหลม โคนใบสอบแคบ มีความกว้างประมาณ 5-7 ซม. ยาวประมาณ 12-15 ซม.

ดอก ออกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบ ภายในช่อจะมีดอกย่อยสีเหลืองแกมเขียวอยู่ประมาณ 7-12 ดอก มีกลิ่นหอม มีกลีบเลี้ยงดอกเป็นสีน้ำตาลอมส้ม ก้านช่อดอกยาวประมาณ 2 นิ้ว บริเวณกลีบดอกและก้านดอกจะมีขนสีน้ำตาลปกคลุมอยู่ จะออกดอกในช่วงของเดือนมิถุนายน-สิงหาคม

ผล ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลม หรือกลมแป้น สีของเปลือกผลมีทั้งที่เป็นสีเขียว สีเหลือง และสีม่วงแดง ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์ เมื่อสุกจะกลายเป็นสีม่วงเข้มจนถึงสีเกือบดำ เปลือกผลหนา นุ่ม มีน้ำยางสีขาวขุ่น ภายในผลมีเนื้อนุ่มๆ สีขาว หรือสีขาวอมม่วง และมีเยื่อสีขาวใสหุ้มเมล็ดอยู่เป็นพู คล้ายผลมังคุด มีกลิ่นหอม รสหวานอร่อย และมีเมล็ดสีดำมันวาวอยู่ภายในเยื่อหุ้มเมล็ด ประมาณ 3-5 เมล็ด

การขยายพันธุ์ สามารถทำได้ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด และการตอนกิ่ง เป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทรายที่มีความอุดมสมบูรณ์ และสามารถระบายน้ำได้ดี ชอบแสงแดดจัดตลอดทั้งวัน สามารถทนต่อสภาพความแห้งแล้งของอากาศได้เป็นอย่างดี ต้องการน้ำในปริมาณปานกลาง ระยะปลูกที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 4-8 เมตร ไม่ค่อยมีโรคและแมลงรบกวน

ประโยชน์ เป็นพืชที่มีใบแน่นหนา สามารถให้ร่มเงาได้เป็นอย่างดี มักนิยมปลูกไว้ตามอาคารบ้านเรือนเพื่อเป็นไม้ประดับ เนื่องจากใบมีความสวยงาม และยังให้ผลที่มีรสชาติหวานอร่อย ภายในเนื้อผลสุกจะประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ส่วนของเปลือกต้นนำมาต้มน้ำดื่มเพื่อใช้เป็นยาบำรุงกำลัง และยาแก้ไอได้

การใส่ปุ๋ยบำรุง

แนะนำให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เพราะปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อหน้าดินและปลอดภัยต่อผู้บริโภค ปุ๋ยอินทรีย์ที่ดีจะต้องมีธาตุอาหารครบถ้วนจึงจะทำให้พืชพรรณ ต้นไม้เจริญงอกงามได้อย่างสมบูรณ์

ปุ๋ยอินทรีย์ไซโต ถือเป็นปุ๋ยที่ได้รับความนิยมจากเกษตรกรเป็นอย่างมาก ปุ๋ยไซโตมีคุณสมบัติและส่วนประกอบที่พืชต้องการครบถ้วน เพราะผลิตจากมูลค้างคาวที่ผ่านการตรวจสอบเรื่องธาตุอาหารที่ครบสมบูรณ์มากๆและยังมีฮอร์โมนไซโตไคนินที่เข้มข้น ปุ๋ยไซโต มีส่วนประกอบหลัก 8 อย่าง อาทิเช่น ฮอร์โมนไซโตไคนิน สารคีเลต จุลินทรีย์ มูลค้างคาว ฯลฯ ช่วยให้ต้นไม้ของคุณงอกงาม ไม้ผล ผลผลิตสูง

สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่ 089-9803982 , 093-4696289


ที่มา www.cyto.biz(ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยมูลค้างคาว ปุ๋ยไซโต)

#ปุ๋ยอินทรีย์ #ปุ๋ยมูลค้างคาว #ปุ๋ยไซโต

Comentarios


bottom of page